เทคนิคการแต่งหน้าร้านบน Lazada Shopee ให้น่าสนใจ
กลยุทธ์การแต่งหน้าร้านบน Shopee Lazada ให้โดดเด่นน่าสนใจ
ในยุคสมัยที่ผู้บริโภคต่างก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยจากรูปแบบออฟไลน์ มาสู่รูปแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce อย่าง Shopee และ LAZADA กันมากขึ้น การจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตเพื่อเพิ่มยอดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างยั่งยืนจำเป็นจะต้องมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจัยหนึ่งในนั้นก็คือการออกแบบตกแต่งหน้าร้านบน Shopee และ LAZADA ให้มีความโดดเด่นน่าสนใจ เพื่อช่วยในการดึงดูดความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และช่วยเพิ่มโอกาสในการที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเหล่านี้จะกลายมาเป็นลูกค้าของเราในอนาคต วันนี้ THE BIZ COOL จึงมีกลยุทธ์การแต่งหน้าร้านบน Shopee และ LAZADA ให้โดดเด่น น่าสนใจ เพื่อเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA มาฝากพ่อค้าและแม่ค้ามือใหม่ทุกคนกัน
1.ตั้งชื่อร้านให้กระชับ จำง่าย และบ่งบอกความเป็นคุณ
การตั้งชื่อร้านถือได้ว่าเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการเริ่มต้นทำธุรกิจ และเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในก้าวที่ยากและมีความท้าทายมากที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกคน เพราะการจะตั้งชื่อของร้านค้าขึ้นมาสักชื่อนั้น เจ้าของธุรกิจไม่เพียงแต่จะต้องเลือกชื่อที่มีความหมายดี มีความเป็นสิริมงคล หรือเป็นชื่อที่มีความเหมาะสมกับคอนเซ็ปต์ของร้านแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่การตั้งชื่อร้านที่ดีนั้นจำเป็นจะต้องสามารถบ่งบอกและสื่อสารถึงจุดประสงค์และภาพรวมของธุรกิจที่เรากำลังจัดทำอยู่ได้อย่างชัดเจน รวมถึงยังจำเป็นจะต้องมีความแตกต่างและโดดเด่นจากธุรกิจคู่แข่ง เพื่อให้ชื่อของร้านเราสามารถช่วยสร้างการจดจำ และช่วยดึงดูดให้ผู้ที่ผ่านมาพบเห็นธุรกิจของเราเกิดความรู้สึกสนใจ และกลายมาเป็นลูกค้าในธุรกิจของเราได้ในท้ายที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการตั้งชื่อร้านสำหรับธุรกิจที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายอยู่บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูงด้วยแล้ว สิ่งที่เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการทุกคนจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญมากที่สุดเมื่อต้องการจะตั้งชื่อร้านบน Shopee และ LADAZA คือ การที่ชื่อของร้านค้านั้นจำเป็นจะต้องมีความสั้น และกระชับ โดยอาจมีความยาวของชื่อร้านอยู่ที่สักประมาณ 2-5 พยางค์ รวมถึงยังจำเป็นจะต้องสามารถอ่านออกเสียงได้ง่าย สะกดง่าย และอาจจะต้องมีการเพิ่มลูกเล่นเข้าไปให้มีความโดนใจและติดปากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การใช้คำตามกระแส หรือวลีที่กำลังฮิตในโลกออนไลน์มาตั้งชื่อร้าน เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจดจำและนำชื่อของร้านไปบอกต่อได้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2.เลือกรูปภาพของสินค้าที่มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง
ท่ามกลางสินค้ามากมายที่วางเรียงรายกันอยู่บนหน้าแพลตฟอร์ม e-Commerce อย่าง Shopee และ LADAZA ภาพถ่ายของสินค้าที่มีความสวยงาม โดดเด่น และสามารถนำเสนอจุดเด่นและภาพรวมของสินค้าออกมาได้อย่างชัดเจนในทุกมุมมอง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้าง First impression หรือความประทับใจแรกพบที่มีต่อสินค้า และช่วยให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกสนใจ รวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจกดเลือกซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ได้มากยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นแล้ว หากเจ้าของธุรกิจต้องการที่จะเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA เจ้าของธุรกิจจำเป็นจะต้องตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้ก่อนว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการจะเสนอขายสินค้านั้นเป็นแบบไหน กล่าวคือ มีอายุเท่าไหร่ เป็นเพศไหน มีพฤติกรรมการบริโภคและความชื่นชอบแบบไหนบ้าง รวมไปถึงภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ต้องการจะนำเสนอนั้นเป็นแบบไหน สนุกสนาน เรียบง่าย หรือว่าหรูหรา เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถทำการเลือกรูปภาพไปลงบนหน้าแพลตฟอร์ม e-Commerce ได้อย่างเหมาะสม เพื่อที่รูปภาพเหล่านั้นจะสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย และช่วยเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. ดีไซน์หน้าโฮมเพจของร้านให้สวยงาม น่าดึงดูดสายตา
หากเจ้าของธุรกิจต้องการจะเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA เจ้าของธุรกิจไม่เพียงแต่จะต้องให้ความสำคัญกับเลือกรูปภาพของสินค้าให้มีความสวยงามโดดเด่นเหนือคู่แข่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เจ้าของธุรกิจจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบดีไซน์หน้าโฮมเพจของร้านค้าบนแพลตฟอร์ม e-Commerce อย่าง Shopee และ LADAZA ด้วยเช่นกัน เพราะการดีไซน์หน้าโฮมเพจของร้านค้าให้มีความสวยงาม น่าดึงดูดสายตา และสามารถนำเสนอตัวตนของร้านค้าออกมาได้อย่างน่าจดจำนั้น คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกสนใจและหันมาเลือกซื้อสินค้าจากร้านของเรามากยิ่งขึ้น
โดยข้อดีของการเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์ม e-Commerce อย่าง Shopee และ LADAZA ที่เหนือกว่าการเปิดร้านค้าบนเว็บไซต์ของตัวเองนั้น คือการที่แพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ LADAZA มีดีไซน์หน้าโฮมเพจแบบสำเร็จรูปให้เจ้าของธุรกิจได้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย และสามารถทำการปรับแต่งดีไซน์ของหน้าโฮมเพจเหล่านั้นได้ตามความต้องการ รวมถึงสามารถเลือกใส่แบนเนอร์ หรือคลิปวิดีโอที่ต้องการบนหน้าร้านค้าได้อีกด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและดีไซน์หน้าโฮมเพจของร้านให้มีความสวยงาม โดดเด่น และเหมาะสมกับคอนเซ็ปต์ของร้าน รวมถึงสามารถนำเสนอสินค้าที่วางจำหน่ายอยู่บนหน้าร้านออกมาได้อย่างน่าสนใจมากที่สุด
4. บอกหมวดหมู่ของสินค้าให้ชัดเจน
ลองคิดดูว่าหากวันนี้คุณต้องการจะเลือกซื้อสินค้าสักอย่างหนึ่งจากร้านค้า 2 ร้านที่มีสินค้าวางจำหน่ายเหมือนกัน คุณต้องการที่จะเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าแบบไหน ? ระหว่างร้านค้าร้านที่หนึ่งที่มีการตกแต่งหน้าร้านอย่างสวยงาม และมีการจัดระเบียบหมวดหมู่ของสินค้าภายในร้านอย่างชัดเจน หรือร้านค้าร้านที่สองที่เพียงแค่นำเอาสินค้าทั้งหมดที่มีมาจัดวางรวม ๆ กันเอาไว้ให้คุณได้เลือกหาสินค้าที่ต้องการเอาเอง แน่นอนว่าในฐานะผู้บริโภค เราทุกคนก็คงจะต้องเลือกซื้อสินค้าจากร้านที่หนึ่งที่มีการจัดการที่ดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการจัดหมวดหมู่ของสินค้าที่ดีนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ผู้บริโภคไม่ต้องเสียเวลาไปกับการเลื่อนหาสินค้าที่ต้องการให้ยุ่งยากแล้วนั้น ยังเป็นการช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำการเปรียบเทียบสินค้าที่ต้องการจะซื้อกับสินค้าในหมวดหมู่เดียวกันได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นการค้าขายบนช่องทางแบบออฟไลน์ หรือบนช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ต่าง ๆ หากเจ้าของธุรกิจต้องการจะเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA ให้ดีมากยิ่งขึ้น เจ้าของธุรกิจก็จำเป็นจะต้องทำการจัดการหน้าร้านค้าให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้วยการแบ่งหมวดหมู่ของสินค้าให้มีความถูกต้องและชัดเจนอยู่เสมอ รวมถึงยังควรทำการเพิ่มข้อมูลของหมวดหมู่สินค้าที่เป็นสินค้ายอดนิยม สินค้าแนะนำ สินค้ามาใหม่ หรือสินค้าโปรโมชัน เข้าไปด้วย เพื่อเป็นการช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจ และตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าของเราได้มากยิ่งขึ้น
5. บอกรายละเอียดของสินค้าที่วางจำหน่ายให้ถูกต้องและครบถ้วน
การบอกรายละเอียดของสินค้าที่วางจำหน่ายบนหน้าร้านบนแพลตฟอร์ม e-Commerce อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และชัดเจน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะช่วยเพิ่มยอดขาย Shopee และเพิ่มยอดขาย LAZADA ให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น เพราะหนึ่งในข้อจำกัดที่สำคัญที่สุดของการซื้อสินค้าจากช่องทางออนไลน์นั้น คือการที่ผู้บริโภคจะไม่สามารถเห็นหรือได้สัมผัสกับสินค้าจริง ๆ ก่อนทำการสั่งซื้อ ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงมักจะเลือกทำการสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าที่มีการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้าอย่างครบถ้วนและชัดเจนเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าร้านหนึ่งบอกขนาดของเสื้อแค่เพียงว่าเป็นขนาด Free Size ในขณะที่อีกร้านหนึ่งมีการบอกขนาดของรอบอก รอบเอว และความยาวของเสื้ออย่างชัดเจน แน่นอนว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็มักจะทำการเลือกซื้อเสื้อผ้าจากร้านที่สองมากกว่าร้านที่หนึ่ง แม้ว่าเสื้อผ้าของทั้งสองร้านนี้จะมีความเหมือนกันเพราะผลิตมาจากโรงงานเดียวกันก็ตาม เพราะว่าการที่ร้านค้ามีการบอกรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดของ สี ขนาด ความกว้าง และความยาวของสินค้า รวมไปถึงประเภทหรือวัสดุที่ใช้ในการผลิตสินค้า และลักษณะผิวสัมผัสของสินค้าอย่างชัดเจนนั้น จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถทำการจินตนาการถึงลักษณะของสินค้าได้ง่ายและใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถจินตนาการได้ว่าสินค้าชิ้นนั้น ๆ มีความเหมาะกับตัวเองหรือไม่ และสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
สำหรับพ่อค้าและแม่ค้ามือใหม่ที่กำลังมองหาตัวช่วยในการออกแบบตกแต่งหน้าร้านบน Shopee และ LAZADA ให้มีความสวยงาม โดดเด่น และสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น THE BIZ COOL ขอแนะนำคอร์สสอนลาซาด้า คอร์สเนรมิตร้านค้าเปิดใหม่ทำเงิน ให้ลูกค้าเห็น-คลิก-ซื้อ สำหรับมือใหม่ (https://thebizcool.com/courses/my-brand-my-store-lazada/) และ คอร์สอนขายของบนShopee
คอร์สช้อปปี้อินไซต์ขายดี ได้ยอดไว (https://thebizcool.com/courses/shopee-insight/) ที่จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการออกแบบร้านค้าให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ พร้อมเรียนรู้เครื่องมือที่จะช่วยสร้างหน้าร้านของคุณให้โดดเด่น เพื่อการถูกค้นพบและการเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ดูรายละเอียด รับคำปรึกษา และสมัครเรียนออนไลน์ได้เลยวันนี้
Email : [email protected]
Facebook : thebizcool
Line : @thebizcool
Instagram : @thebizcool